ครูสาว ครูญาดา 1-6 (20 ตอน)

ครูสาว ตอนที่ 1
โดย AloneinthedarK

เอี๊ยดดด...เสียงรถสองแถวเก่าคร่ำคร่าเบรกจอดส่งผู้โดยสาร ถนนดินลูกรังหน้าแล้งทำให้ฝุ่นฟุ้งคลุ้งเต็มถนน เมื่อสองแถววิ่งโคลงเคลงจากไปและฝุ่นจางลง หญิงสาวคนหนึ่งยืนอยู่ตรงศาลาไม้ที่พักผู้โดยสารเก่าแก่ สายตาเธอมองไปมาเพื่อหาผู้ที่จะมารับ

“เอ่อ...ครู ครูใช่ไหมครับ”

เสียงทักดังขึ้นข้างหลังจนเธอตกใจหันขวับไปมองต้นเสียง ชายชราอายุราวหกสิบปี ผิวดำสนิทมีรอยสักครึ้มไปทั่วเนื้อที่โผล่พ้นผ้าออกมานั้น ศีรษะของแกล้านแทบไม่มีผม ยืนยิ้มเห็นฟันเหลืองเป็นคราบ

“ผ๊ม...ชื่อมีครับ เป็นภารโรงของโรงเรียน ครูใหญ่ท่านสั่งไว้ให้มารับ เอ่อ...ครู...”
“หนูชื่อญาดา เรียกหญิงก็ได้ค่ะลุง” เธอพูดและยิ้มอย่างสุภาพ
“ครับๆครูหญิง มีของมาแค่นี้หรอครับ”

ลุงมีกวาดตามองกระเป๋าเสื้อผ้า และกล่อง 2-3 ใบ

“ค่ะ หนูเพิ่งบรรจุมาสอนที่นี่เป็นที่แรก ยังไม่รู้เลยว่าต้องเตรียมอะไรมาบ้าง”
“อ๋อ...ไม่เป็นไรหรอกครับ โรงเรียนบ้านโคกสวาทนี่มันเล็ก ของที่ครูเตรียมมาคงเกินพอที่จะสอนเด็กๆที่นี่ล่ะครับ”

แกพูดพลางหัวเราะ ขณะที่หญิงสาวหน้าแดง

“ลุงคะ หนูสงสัยตั้งแต่ได้เห็นชื่อโรงเรียนที่ได้บรรจุแล้ว ทำไมที่นี่เขาเรียกว่า เอ่อ...บ้านโคกสวาทล่ะคะ ลุงรู้ไหมคะ พอเพื่อนๆหนูได้ยินชื่อโรงเรียนที่หนูจะมาสอนมีแต่คนหัวเราะ”

“ฮ่าๆๆๆ” ลุงมีหัวเราะจนน้ำลายกระเซ็น
“ที่นี่เดินเขาเรียกโคกสว่างครับครู ไปๆมาๆไหงทางอำเภอเขาไปเปลี่ยน เป็นโคกสวาทได้ อันนี้ลุงก็ไม่รู้ว่ามันเพี้ยนไปตั้งแต่เมื่อไหร่”

ลุงมีและครูสาวคุยกันขณะขนของขึ้นวางและมัดบนตะแกรงเหล็กท้ายรถมอเตอไซค์คันเก่าคร่ำคร่า

“ที่นี่ติดชายแดนเขมร รถราวิ่งผ่านก็น้อย อย่างสองแถวที่ครูนั่งมามันก็มีวันละเที่ยวเท่านั้นล่ะครับ ผ๊มว่า อยู่ที่นี่ไปเขมรง่ายกว่าเข้าอำเภอ”

ลุงมีชี้มือไปทางหุบเขาที่อยู่ไม่ไกลนัก

“โน่นน่ะครับครู เลยดงนั่นไปก็เขตเขมรแล้ว ผ๊มละสงสัยจริงๆ”

แกพูดพลางหันมามองหน้าสาวสวย

“ครูทั้งสาว สวย หุ่นดี ไม่น่ามาเป็นครู และไม่น่ามาอยู่ไกลขนาดนี้เลยนะครับ”

สายตาที่มองสำรวจทั่วร่างของลุงมีทำให้ญาดาหน้าแดง

“หนูตั้งใจอยากจะให้ความรู้กับเด็กๆที่อยู่ห่างไกลน่ะค่ะ ให้ชีวิตเขาดีขึ้น” ลุงมียิ้ม
“แบบนี้เขาเรียกว่ามีอุดมสติใช่ไหมครับครู”
“อุดมคติต่างหากค่ะลุง”

เธอรู้สึกปลอดโปร่งและสบายใจขึ้นเมื่อได้พูดคุยกับภารโรงเฒ่าอย่างเป็นกันเอง

“ขึ้นรถเถอะครับครู เดี๋ยวจะมืดเสียก่อน ที่นี่มืดๆไม่มีใครเขาออกไปไหนกันหรอกครับ”
“ทำไมหรอคะลุง”
“ครูอยู่ไปก็จะรู้เองล่ะครับ”

ลุงมีพูดพลางยิ้มน้อยๆ ขณะที่ก้าวขึ้นซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์ของลุงมี ด้วยความที่เบาะรถสั้นทำให้หน้าอกอวบของครูสาวไปถูกับหลังภารโรงเฒ่าโดยที่ เธอไม่ได้ตั้งใจ

“โอ๊ะ...ขอโทษค่ะลุง”

เธอตกใจและอายเพราะตั้งแต่โตเป็นสาว เธอแทบจะไม่เคยใกล้ชิดกับผู้ชายเลย เพราะที่บ้านของเธอหัวโบราณมาก ญาดาเลยได้เรียนแต่โรงเรียนหญิง และมีแต่เพื่อนผู้หญิงมาตลอด หากมีหนุ่มๆกล้ามาจีบเธอ พ่อเธอจะรีบไล่ตะเพิดด้วยความรักและ หวงลูกสาวคนเดียว แต่พอที่บ้านรู้ว่าเธอต้องการจะมาเป็นครูที่นี่ ไม่ว่าจะคัดค้านอย่างไรก็ไม่สามารถเปลี่ยนใจเธอได้ พ่อและแม่เธอจึงจำใจต้องปล่อยให้เธอมาเผชิญชีวิตด้วยความรักและเป็นห่วง

“ขอโทษอะไรหรอครับครู”

แม้ว่าลุงมีจะรู้ว่าเธอขอโทษเรื่องอะไร แต่ด้วยความเก๋าของแก เลยแกล้งทำเป็นไม่รู้เรื่อง

“ถนนที่นี่ขรุขระหน่อยนะครู”

แกขับช้าๆ ขณะที่รถตกหลุมแต่ละครั้งหน้าอกนิ่มๆของครูหญิงคนสวยก็มาชนกับแผ่นหลังแกทุก ครั้ง แก่นกายขนาดใหญ่ที่นอนสงบอยู่ในกางเกงเริ่มแข็ง ตัวขึ้นเรื่อยๆ ลุงมีพยายามทำตัวปกติไม่ให้ผิดสังเกตโดยการชวนครูหญิงคุยไปเรื่อยๆ ซึ่งแรกๆนั้นเธอพยายามนั่งห่างจากลุงมีแต่เพราะเบาะรถที่สั้นเพราะลุงมีตัด ส่วนท้ายออกเพื่อวางตะแกรงเหล็กขนของ โดยปกติแกนั่งขับคนเดียวก็จะนั่งได้สบายพอดีๆ แต่เมื่อมีคนมาซ้อน ไม่ว่าครูหญิงจะขยับออกห่างยังไงก็ได้ระยะไม่กี่นิ้ว ลุงมีเองก็ท่าทางไม่ได้แสดงท่าทางอะไรผิดปกติ เธอจึงเริ่มทำตัวสบายๆขึ้น ระยะห่างที่เธอพยายามตั้งใจเว้นไว้ก็ค่อยๆหดสั้นลง

เมื่อรถขับมาได้ไม่ถึงสองกิโลลุงมีกับครูหญิงคนสวยก็นั่งเบียดชิดกันจนลุงมี ต้องเม้มปาก เพราะเบื้องหลังของแกนั้นรู้สึกได้ถึงอกอวบนิ่มสองก้อนบดเบียดหลังแกอยู่ ไล่ลงมาแกรู้สึกได้ว่าทั้งตัวของครูคนสวยแนบกับแก เนินเนื้อนุ่มนิ่มนั่น...แกสัมผัสได้เพราะมันมาแนบกับก้นเหี่ยวๆของแก และขาอวบนิ่มของครูหญิงก็กำลังแนบคีบท่อนขาดำๆของแกอยู่ ลุงมีเพลิดเพลินจนลืมที่จะคุย

“ลุงคะ...ลุง” คนสวยยื่นหน้าเข้าไปด้านข้างของลุงมี
“ครับ” แกหันขวับปากดำๆของแกกระทบเข้ากับแก้มขาวหอมของครูสาว
“อุ๊ย” เธอสะดุ้งหน้าแดง
“ข...ขอโทษครับครู ผมไม่ได้ตั้งใจ”
“หนูผิดเองค่ะ คิดว่าลุงไม่ได้ยินที่เรียก ก็เลย...”
“ช่างมันเถอะครับ เอาล่ะ ถึงพอดี”

รถมอเตอร์ไซค์ขับผ่านบริเวณลานดินกว้างและเพิงไม้โล่งๆ ซึ่งมีฝากั้นห้องแบ่งตรงกลางซึ่งใช้แทนกระดานดำ หากญาดาไม่เห็นเสาไม้สูงซึ่งเป็นเสาธงแล้วเธอจะไม่รู้เลยว่านี่คือโรงเรียน บ้านโคกสวาท ซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางของเธอนั่นเอง

“เป็นไงครับครู เห็นโรงเรียนแล้วเงียบไปเลย”

ลุงมีหันมาถามพลางหัวเราะ

“ก็...มีอะไรที่ต้องพัฒนาอีกเยอะนะคะ”

รถวิ่งวนไปจอดที่ด้านหลัง ซึ่งมีสภาพเป็นกึ่งป่ามีต้นไม้ร่มครึ้ม มีเรือนแถวไม้หลังเล็กๆปลูกอยู่ สภาพของมันดูแล้วไม่ต่างจากเพิงพักคนงานก่อสร้างเท่าไหร่ เพียงแต่มันดูเก่ากว่ามาก ประตูห้องริมซ้ายสุดเปิดออก ชายกลางคนวันราวๆห้าสิบตัวอ้วนใหญ่ผิวดำพุงพลุ้ย เดินโซเซลงบันไดหน้าเพิ่งพักลงมา

“ครูหญิงครับ นี่ครูใหญ่ครับ” ลุงมีแนะนำ
“สวัสดีค่ะครูใหญ่”

สาวสวยไหว้อย่างนอบน้อม ครูใหญ่ยกมือรับไว้โดยกุมมือขาวนุ่มของญาดาไว้

“ซ...ซาหวัด...ดี เอื๊อก ครับ”

กลิ่นเหล้าโชยคลุ้งออกมาจากปากของครูใหญ่

“โผมชื่อ...โสมควร เป็นครู...หญ่ายครับ”

ตาปรือแดงก่ำมองหน้าและหุ่นของครูสาวจนตาเยิ้ม

“เอ่อ...เอ่อ...ค่ะ” เธอดึงมือออกจากมือสากใหญ่ของครูใหญ่
“ไอ้มี...พา...พาครูไปดูห้อง” ครูใหญ่สั่งแล้วหันมาทางญาดา
“ขอ...ขอตัวนะครับ...ม...มีธุระ” พูดจบก็เดินโซเซกลับเข้าห้อง
“นี่เป็นบ้านพักครูครับ เชิญครูขึ้นไปเลยครับ ห้องกลางครับ ผมเปิดไว้ให้แล้ว เดี๋ยวผมขนของขึ้นไปให้”

ญาดายืนอยู่กลางห้องโล่งๆ ขนาดราว 3x4 เมตร

“นี่มันกุฏิพระแล้วลุง ไม่ใช่บ้านพักครูแล้วค่ะ”
เธอพูดกับลุงมีพลางยิ้ม

“ครูจะอยู่ได้ไหมครับ”
“ได้สิคะ ว่าแต่ ห้องน้ำอยู่ไหนคะลุง”
“อ๋อ...อยู่หลังเรือนพักน่ะครับ ที่นี่น้ำมันน้อยเลยต้องทำเป็นห้องน้ำรวมกัน”

ญาดาเปิดหน้าต่างด้านหลังซึ่งมองไปเห็นห้องน้ำสังกะสีปุปะอยู่ไม่ไกลนัก

“ถ้าครูจะอาบน้ำ ให้รีบอาบก่อนค่ำนะครับ ที่นี่ตะวันตกดินแล้วหนาวมาก เดี๋ยวครูจะไม่สบาย” ลุงมีบอกอย่างเป็นห่วง
“ขนของเรียบร้อยแล้วล่ะครับ ถ้าต้องการเรียกใช้ผม ผมอยู่เพิงเลยห้องน้ำไปอีกหน่อยนะครับ เดินสัก 5 นาทีก็ถึง”
“แล้ว...แล้วลุงมีอยู่กับใครคะ”
“ผมอยู่คนเดียวครับ นานๆลูกชายกลับมาจากในเมืองจะมาอยู่ด้วยครับ”
“แล้วเอ่อ...ครูใหญ่ล่ะคะ”
“อ๋อ...เมียแกเพิ่งตายเมื่อ 3 เดือนมานี่เองครับ แกเสียใจมากกินเหล้าทุกวัน เฮ้อออ”

ลุงมีพูดขณะเดินออกจากห้อง

“แล้วห้องทางขวาล่ะคะ”

ลุงมีสะดุ้งเล็กน้อย หันกลับมาทางญาดา แกหยุดยิ้มเหลือบตาไปมองห้องทางขวาซึ่งปิดสนิท

“แล้วครูก็รู้เองครับ” แกพูดเบาๆแล้วรีบเปลี่ยนเรื่อง
“เดี๋ยวตอนหัวค่ำผมจะเอาข้าวมาให้นะครับ ครูมาวันแรกคงไม่ได้ตระเตรียมอะไร อาหารชาวป่าน่ะครับ ผมทำเอง ตอนนี้ยังไม่มืดครูรีบอาบน้ำเถอะครับ ผมตักน้ำไว้ให้แล้ว”

พูดจบแกก็เดินจากไป ญาดามองจากหน้าต่างหลังห้องเห็นหัวลุงมีผลุบโผล่หายไปทางหลังห้องน้ำ

“จะอยู่ได้ไหมเนี่ย เฮ้อออ ไม่เป็นไรสู้ๆ”

เธอพูดกับตัวเองพลางเริ่มรื้อกระเป๋า ทันทีที่เปิดกระเป๋าเสื้อผ้าใบใหญ่เธอก็ชะงัก

“ตายแล้ว...”

เธอรื้อเสื้อผ้าออกมา ซึ่งมีแต่สายเดี่ยว เกาะอก เสื้อกล้ามและกระโปรงสั้นจุ๊ด

“อะไรเนี่ย สงสัยสลับกระเป๋ากับใครแน่เลย”

เธอจำได้ว่าก่อนขึ้นรถสองแถว เด็กรถที่ผูกกระเป๋าอยู่ข้างบนวางกระเป๋าเธอลงข้างๆกับอีกใบหนึ่งซึ่งสีและแบบเหมือนกัน

“ตายจริง ทำยังไงดีเนี่ย”

เธอรำพึงขณะหยิบจีสตริงบางแจ๋วขึ้นมองส่องพลางถอนใจ

“เฮ้อออ ทำไงได้ อธิบายให้ครูใหญ่ฟังก็แล้วกัน บ้านนอกขนาดนี้คงไม่มีผู้ใหญ่เข้ามาตรวจมั๊ง อาบน้ำดีกว่า”

ญาดาก็มีข้อดีตรงนี้ คือเธอทำใจยอมรับแล้วไม่นำความผิดพลาดในอดีตมาคิด เธอรื้อกระเป๋าเจอผ้าขนหนูเล็กๆผืนหนึ่ง

“ผ้าถุงไม่มี อาบยังไงเนี่ย สงสัยต้องแก้ผ้าอาบแล้ว”

เธอไม่เคยแก้ผ้าอาบน้ำในห้องน้ำต่างจังหวัดหากไม่ได้พักโรงแรม ทุกครั้งที่เธอไปเที่ยวเธอจะต้องนุ่งผ้าถุงอาบน้ำทุกครั้ง แต่นี่สถานการณ์มันบังคับ เธอผลัดชุดเดินทางในห้องน้ำแล้วรีบตักน้ำจากโอ่งอาบและรีบขึ้นห้องอย่างรวด เร็ว

ครูสาว ตอนที่ 2

ญาดารื้อกองเสื้อผ้าพยายามหาชุดที่สุภาพออกมาใส่ แต่ในกระเป๋ามีแต่สายเดี่ยว เกาะอก และเสื้อกล้ามสีต่างๆ ท่อนล่างก็จะมีแต่กระโปรงสั้นซึ่งเธอลองเอามาทาบกับตัวแล้วตัวที่ยาวที่สุด ก็สั้นเหนือเข่าเธอถึงคืบกว่า ส่วนตัวที่สั้นไม่ต้องพูดถึงเรียกว่าแค่ปิดก้นพอดีเลยทีเดียว เธอหันไปรื้อพวกชั้นในก็พบว่ามียกทรงเพียง 2 ตัวซึ่งทั้งคู่เป็นแบบครึ่งเต้าเบาบาง ส่วนกางเกงใน เธอมองแล้วถึงกับเบ้ปากเพราะเป็นจีสตริงบางเฉียบล้วนๆ ไหนจะชุดนอนสายเดี่ยวโปร่งบางใสแจ๋วอีกล่ะ เธอส่ายหน้า

“นี่ฉันสลับกระเป๋ากับนักร้องคาเฟ่ หรือเมียน้อยเสี่ยหรือไงเนี่ย”

ในที่สุดเธอก็เลือกเสื้อกล้ามสีน้ำตาลออกมาใส่กับกระโปรงสั้นสีขาวบางเบา เมื่อใส่แล้วเธอจึงเห็นว่าเจ้าของเสื้อตัวเล็กกว่าเธอมาก เสื้อกล้ามตัวเล็กทำให้เน้นหน้าอกขนาด 35 คัพ D ของเธอให้พุ่งเด่นออกมา ขณะที่กระโปรงสั้นบางพริ้วตัวนั้นก็อวดเรียวขาขาวอมชมพูของเธอขึ้นมาถึง โคนขาเช่นกัน

“ต้องทำใจให้ชินล่ะนะ ช่วยไม่ได้”

พระอาทิตย์ใกล้ตกแล้ว บรรยากาศยามเย็นเงียบสงบ เธอออกมาเดินเล่นตั้งใจว่าจะลองเดินไปดูเพิงพักของลุงมี เธอเดินลุยป่าหญ้ารกไปตามทางเล็กๆซึ่งดูจะเป็นเพราะคนเดินผ่านประจำ

“รู้สึกหวิวๆโล่งๆจังใส่กระโปรงสั้นขนาดนี้”เธอคิด

ขณะเดินปล่อยอารมณ์ไปตามทางจนเจอกระท่อมไม้ไผ่เล็กๆหลังหนึ่งปลูกอยู่ติดกับ ลำธารเล็กๆ เธอมองเห็นลุงมีกำลังก้มๆเงยๆทำอะไรที่เตาถ่านอยู่ แกนุ่งผ้าขาวม้าเก่าๆขาดๆผืนเดียว มองเห็นรอบสักอักขระเต็มหลัง เธอเดินมาหยุดข้างหลังแกเงียบๆ ลุงมีหันมาเห็นก็ตกใจ

“เฮ้ยยย...โธ่ครูหญิงเองหรอครับ มาไม่ให้ซุ่มให้เสียง ผมตกใจหม๊ดด”

แกเห็นว่าเป็นครูสาวเลยยิ้มแหยๆ สายตาลุงมีมองกวาดไปที่หน้าอกอวบและขาอ่อนขาวเนียนของครูคนสวย

“ครูแต่งตัวสวยเหลือเกินครับ บ้านป่าแบบนี้ ลุงไม่เคยเห็นใครแต่งตัวแบบนี้เลยครับ”

เห็นลุงมีจ้องมากๆเข้าเธอเองก็เริ่มเขิน

“หนูโดนสลับกระเป๋าน่ะค่ะ เสื้อผ้าที่จะเอามาใส่ที่นี่หายหมด เหลือแต่ชุดแบบนี้”
“สวยครับ สวยมาก” ลุงมีชมไม่ขาดปาก
“ทำอะไรอยู่คะลุง”

ญาดาอายจึงรีบเปลี่ยนเรื่องคุย

“อ๋อ กับข้าวน่ะครับ มีต้มปลา น้ำพริก ครูจะกินได้หรือเปล่า” ครูสาวยิ้ม
“ได้สิคะ”

เธอพูดขณะทรุดตัวลงนั่งบนแคร่ไม้ไผ่เก่าๆหน้าเพิงพักพลางมองไปรอบๆ

“ที่นี่บรรยากาศดีกว่าที่เรือนพักครูอีกนะคะ”
“ถ้าครูชอบก็มาเดินเล่น นั่งเล่นได้ตามสบายนะครับ”

ลุงมีพูดพลางนั่งยองๆดูหม้อต้มปลา ญาดาหันกลับมามองลุงมีทันใดนั้นเธอจึงสังเกตเห็นว่ามีอะไรบางอย่างในผ้าขาว ม้าของลุงมี ยื่นห้อยออกมาจนเรี่ยพื้น เมื่อเธอเห็นชัดจึงเสมองไปทางอื่นขณะที่ใจเต้นโครมคราม เพราะเป็นครั้งแรกที่เธอได้เห็นท่อนเนื้อของเพศชายที่เป็นของจริง ไม่ใช่ในรูปหรือภาพเคลื่อนไหว

ลุงมีเองนั่งยองๆตรงหน้าครูสาว ตาก็แอบเหลือบไปมองซอกซอนเข้าไปในซอกขาขาวของเธอ เนื่องจากญาดาไม่เคยใส่กระโปรงสั้นขนาดนี้เธอจึงไม่ชินกับการระวังตัวในขณะ นั่ง ลุงมีจึงสามารถเห็นกางเกงในจีสตริงสีขาวและใยไหมสีดำบางเบาของครูสาวได้ ท่อนเนื้อของลุงมีเริ่มมีปฏิกิริยากับภาพที่เห็น ขณะเดียวกับที่ญาดาก็มีความรู้สึกแปลกใหม่เช่นกันเมื่อเธอได้รู้ว่าลุงมีแอบ จ้องเข้าไปในกระโปรงสั้นของเธอ...

ลุงมีลุกขยับจะไปเอาถ่านมาเติมแกเหยียบชายผ้าขาวม้าข้างในไว้โดยไม่รู้ตัว ขณะที่ยืนผ้าขาวม้าเก่าบางจึงคลายปมหลุด และสวรรค์ช่างเป็นใจ ขณะนั้นมีลมพัดหอบผ้าขาวม้านั้นลอยไปตกบนตักครูสาวพอดี ญาดาซึ่งหันไปรอบๆชมวิวเมื่อเหลียวมาเห็นถึงกับตะลึง ท่อนเอ็นยาวใหญ่ของลุงมีเมื่อแข็งตัวเต็มที่ขนาดมันพอๆกับข้อมือเธอทีเดียว และยังโด่ยาวถึงสะดือของแก ขนดกรกรุงรังไปทั่ว

ทั้งสองตกใจพูดไม่ออก ขณะที่ลุงมีเดินเข้าหาครูสาวช้าๆ แกเจตนาไม่ปิดบังลำเอ็นมโหฬารของแก แถมยังทำกระดกหงึกๆอวดเสียอีก

“เอ่อ...ขอผ้าขาวม้าผมคืนเถอะครับครู”

ลุงมีพูดเบาๆแต่ขณะนั้นญาดาไม่ได้ยินอะไรแล้ว ตากลมโตของเธอจ้องไปที่อสรพิษดำยักษ์อย่างลืมตัว

“ครูไม่เคยเห็นมันหรือครับ”

ญาดารู้สึกตัวเงยหน้ามองลุงมี ใบหน้าและลำคอเธอแดงซ่าน

“ค่ะ...” เธอไม่รู้จะตอบอะไรมากกว่านั้น
“ครูอยากลองจับมันไหมล่ะครับ”

ลุงมีเดินเข้าไปใกล้จนปลายท่อนเนื้อห่างจากหน้าญาดาแค่ 1 ฟุต ความรู้สึกต่างๆประดังขึ้นมาในตัวของครูสาว ก่อนที่เธอจะได้คิดไตรตรอง มือขาวนุ่มของเธอก็ยื่นไปแตะกับลำเอ็นนั้น ความแข็งแกร่งและร้อนแรงของมันทำให้เธอรู้สึกว่าในซอกหลืบของเธอเริ่มมี ปฏิกิริยาโต้ตอบเช่นกัน

“กำมันสิครับ แล้วค่อยๆรูด อืมมม...”

ลุงมีเริ่มสอนบทเรียนพิศสวาทบทแรกให้ครูสาว เธอทำตามคำสั่งเหมือถูกสะกด แท่งเอ็นร้อนกำแทบไม่รอบ เส้นเลือดปูดโปนน่ากลัว เธอใช้สองมือกำแล้วรูดท่อนเนื้อชายชราอย่างเบาๆแล้วค่อยๆแรงขึ้นๆ

“อา...ดีจังครับ...มือครูนิ่มดีจัง”

ลุงมีนึกขอบคุณฟ้าที่ส่งครูสาวสวยมาให้กับแก แกขยับเข้าไปหาเธออีกอย่างได้ใจ จนปลายหัวบานแทบจะชนหน้าเธอ ญาดาผงะถอย กลิ่นสาบและคาวคลุ้งโชยออกมาจากแท่งดำนั้น

“อ้าปากออกสิครับครู” ญาดาเงยหน้าขึ้นอย่างสงสัย
“คะ?...อ๊อก”

ทันทีที่เธอเอ่ยปากชายชราจอมหื่นแอ่นท่อนลำเข้าปากเธอทันที ก่อนที่เธอจะทันรู้ตัว ปลายบานก็แทงเข้ามาในปากจนเธอต้องอ้าปากออกให้กว้างที่สุดเพื่อไม่ให้สำลัก

การทำอย่างนั้นยิ่งทำให้ชายแก่แทงท่อนเอ็นลึกเข้ามาในปากของเธอถึงครึ่งท่อน ลำ ตอนนี้สองมือของญาดามือหนึ่งจับโคนท่อนเอ็นไว้อีกมือหนึ่งพยายามดันท้องน้อย ชายแก่ออกเพื่อไม่ให้เขารุกเข้ามาได้ลึกกว่านี้ แต่มันไม่เป็นผลเมื่อเขาเอาสองมือขยุ้มจับหัวของเธอกดลงไปให้จมลึกเข้าไปอีก ปากบางๆของญาดาจมลงไปถึงโคนท่อนเนื้อยาวใหญ่ ขนรกรุงรังทิ่มแทงหน้าสวยและแก้มใสตลอดจนเข้าตาจนทำให้เธอต้องหลับตา กลิ่นสาบของมันทำให้เธอหายใจไม่ออก

“แค่กๆๆ...ค่อกกกก”

ลุงมีเห็นครูสาวทนไม่ไหวเลยปล่อย เธอกระดกหัวขึ้นเงยหน้าหอบหายใจน้ำลายไหลเยิ้มลงเปื้อนเสื้อกล้ามตัวบาง

“แค่กๆ...ลุง หนูหายใจไม่ออก”
“ผมขอโทษ ทำแรงไปหน่อย”

ครูสาวค้อนอย่างน่ารัก แต่เมื่อลุงมียื่นควยมาให้อีก เธอก็อ้าอมเข้าไปแต่โดยดี ปากบางๆของเธอรูดไปตามเส้นเอ็นปูดโปน ลุงมีเสียวจนหน้าเหยเก

“อูยยยยย...ครูดูดเก่งอาไรอย่างนี้”

ญาดารู้แปลก สนุก และตื่นเต้นไปกับประสบการณ์ใหม่ที่เธอได้รับ ขณะนั้นเองมือหยาบสากของลุงมีได้คลึงเคล้นสองเต้าอวบของเธออย่างเบาๆมีลีลา
ญาดาไม่รู้เลยว่าลุงมีนั้นประสบการณ์โชกโชนขนาดไหน สมัยแกยังหนุ่มสาวๆทั่วอำเภอไปจนถึงฝั่งเขมรต่างเคยลิ้มรสดุ้นยักษ์ของแกมา แล้วหลายคน แต่ไม่มีคนไหนเลยที่สวย ขาว หุ่นดีเท่ากับครูสาวที่กำลังดูดรูดท่อนลำให้แกอยู่ตอนนี้ แกรู้สึกได้ถึงยอดเม็ดทับทิมที่เริ่มแข็งเป็นไตดันยกทรงบางๆออกมา ญาดาหน้าแดง เสียววูบวาบขนอ่อนลุกชัน รู้สึกเคลิบเคลิ้มกับลีลาบำเรอกามของแก

ชายชราปลดสายเดี่ยวและสายบราออกจากไหล่ครูสาว แล้วดึงลงจนปทุมถันขาวอวบสองเต้าเด้งผึงออกมา ลุงมีเห็นเต็มตาถึงกับตาลุก 'โอ...นมสวยฉิบหาย' แกคิดขณะที่หื่นจนตาลาย มือสากกร้านทั้งสองบีบเคล้นเต้าอ่อนอย่างเมามันจนเป็นรอยมือแดง สองนิ้วแกคีบยอดเม็ดดึงเล่นขณะที่รู้สึกว่าใกล้จะถึงฝั่งเต็มที

“โอวๆๆ...”

แกผละมือจากนมคู่สวยมากดหัวครูสาวลงให้อมแท่งทวนของแกจนมิดด้ามอีกครั้ง

“อ๊ากกกกกกกกกกก...”

แกร้องด้วยความเสียงสุดยอดขณะที่ฉีดน้ำกามปริมาณมหาศาลเข้าไปในโพรงปากสาว สวย น้ำเชื้อที่แกเก็บไว้หลายปีเพราะไม่ได้ร่วมรักกับสาวคนใด เพราะแกแก่ ดำและฐานะต่ำต้อย แต่วันนี้แกได้หลั่งน้ำกามลงไปในปากของสาวที่สวยปานนางฟ้า

ญาดาลืมตาโพลงด้วยความตกใจ ไหนจะแท่งลำที่เสียบเข้าปากเธอจนมิดด้ามแทบทะลุคอ ไหนจะขนหยาบหนาที่อุดจมูกเธอจนหายใจไม่ออก ไหนจะน้ำกามขุ่นข้นคาวจัดที่ฉีดทะลักลงคอของเธอ

“อ่อกกๆๆๆ...”

เธอสำลักจนตาเหลือกขณะที่ชายแก่ลืมตัวกดหัวเธอไว้แน่นเพราะความเสียวสุดยอด ที่ได้รับ เธอเอาสองมือหยิกข่วนไปที่ท้องน้อยของลุงมีจนแกได้สติปล่อยเธอ สาวสวยเด้งตัวออกและล้มลงนอนบนแคร่ไม้ไผ่ หอบหายใจเอาอากาศเข้าสู่ปอด เธอนอนหลับตาพริ้ม ปากบางของเธอเปื้อนน้ำกามขาวอมเหลืองเยิ้มย้อยลงมาถึงคางและลำคอ สองเต้าอ่อนขาวฉ่องไหวระรัวเหมือนเยลลี่ล่อตาเฒ่าหื่นยิ่งนัก

“ครูครับ ท่าทางจะไม่สบาย เข้าไปนอนพักในเพิงก่อนนะครับ”

พูดจบแกก็ขยับจะรวบอุ้มร่างบางของครูสาวเข้าไปสอนเกมกามขั้นต่อไปในกระท่อมของแก ทันใดนั้นเอง...




ครูสาว ตอนที่ 3

“มีโว๊ย...ไอ้มี...ไอ้มีโว๊ยยย...”

เสียงตะโกนโหวกเหวกดังมาจากฝั่งตรงข้ามลำธาร ทั้งสองคนตกใจโดยเฉพาะญาดาเธอหันซ้ายขวาอย่างไม่รู้จะทำอย่าง ไร ลุงมีคว้าข้อมือเธอลากมาตรงมุมกระท่อม พลางกระซิบบอกว่า

“ไอ้เบิ้ม เกลอผมเองน่ะครู ครูเช็ดหน้าเช็ดปากก่อนเถอะครับ เดี๋ยวผมออกไปรับหน้ามันก่อน”

เธอรีบเช็ดคราบน้ำกามที่เยิ้มย้อยจากปาก คาง และหยดลงมาถึงหน้าอกด้วย

“อ๊ะ..ลุงคะ ยกทรง”

เธอตะโกนบอกลุงมีให้เก็บยกทรงที่ตกอยู่ข้างแคร่ ซึ่งแกก็ใช้เท้าเขี่ยมันเข้าไปใต้แคร่ขณะที่ตาเบิ้มเพื่อนเก่าแก่ของแกโผล่ หน้ามา ถึงพอดี

“ทำอะไรอยู่วะ...เรียกไม่ขาน”
“อ๋อ พอดีข้าคุยอยู่กับครูคนใหม่น่ะ เพิ่งกินข้าวเสร็จ”
“ไหน...อยู่ไหนล่ะ”
“ไปบ้วนปาก เพิ่งกินข้าวกันเสร็จน่ะว่ะ”

สองเฒ่าหันไปมองครูสาวที่เดินออกมาจากข้างกระท่อม น้ำล้างคราบน้ำกามเปียกเสื้อบริเวณเนินอกเป็นดวงใหญ่ ยอดอกพุ่งชูชันเป็นปุ่มเห็นได้ชัดเพราะความเสียวที่ยังคั่งค้างและความเย็น ของอากาศ

“อู้หู...”

ตาเบิ้มตาลุกโพลงมองเนินนมขาวอวบ และขาอ่อนขาวเนียนตาค้าง

“สวัสดีค่ะ...หนูชื่อหญิงค่ะ เป็นครูใหม่”

ญาดาไหว้ตาเบิ้มพลางหลบสายตาด้วยความอาย

“ครูสวย สวยมาก”

ตาเบิ้มพึมพำพูดอะไรไม่ถูก เพราะตลอดชีวิตแกไม่เคยเห็นผู้หญิงขาว สวย หุ่นดีเหมือนญาดา แกเป็นคนบ้านป่าไม่มีหนังสือให้อ่าน ทีวีให้ดู ตาแกจ้องอยู่ที่นมสวยใต้เสื้อเปียกๆไม่ละสายตา

“เอ่อ...ไอ้เบิ้มมันมาชวนกินเหล้าน่ะครับครู”

ลุงมียิ้มแหยๆ ในใจนึกแช่งด่าตาเบิ้มที่มาตอนเข้าได้เข้าเข็มพอดี

“งั้นเชิญลุงตามสบายนะคะ หนูขอกลับก่อน”
“ครับ...”

ลุงมีมองตามร่างสวยอย่างเสียดาย

“คนกรุงเทพ สวยอย่างงี้หรอวะไอ้มี แต่งตัวก็โป๊ฉิบหาย”
“เออ กูก็เพิ่งเคยเจอคนกรุงเทพว่ะ ส่วนเสื้อผ้า เห็นครูว่าโดนสลับกระเป๋า ชุดที่ใส่มาก็ธรรมดา” ตาเบิ้มทำท่าครุ่นคิด
“งั้นหรือวะ มึงลองคิดซิว่าจะเป็นยังไงถ้าครูต้องแต่งตัวโป๊ๆอยู่ที่นี่ทุกวัน”
“อืมมม...เราก็ได้ดูอะไรสวยๆทุกวัน นอกจากได้ดู อาจจะได้จับ ได้อะไรๆอีกเยอะ ฮ่าๆๆๆ งั้นเดี๋ยวครูซักชุดที่ใส่มาเมื่อไหร่กูจะไปลักมาเผาทิ้ง ให้เหลือแต่ชุดโป๊ๆดีไหม ฮ่าๆๆๆ”

สองเกลอคุยไปพลางรินเหล้ากินไปพลาง

ญาดาเดินกลับมาถึงห้อง ในใจของเธอมีแต่ความสับสน

“เราเป็นอะไรไปเนี่ย...ทำไมแค่เห็นไอ้ตรงนั้นของลุงมี เราถึงกลับทำอะไรไม่ถูก แล้วทำไมลุงมีต้องเอามันมาใส่ปากเรา แล้วทำไม...”

เธอล้วงมือสอดลงไปในกระโปรงตัวสั้น

“ทำไมเรารู้สึกเสียวเวลาลุงแอบมอง แล้วเสียวมากขึ้นเรื่อยๆ...”

นิ้วเรียวเล็กลูบไล้ไปตรงรอยแยกอย่างเบามือนอกกางเกงใน ความเสียวพุ่งกลับขึ้นมาอีกครั้ง เธอพึ่งรู้จักความเสียวประหลาดในครั้งนี้

“อา...เสียวสบายเหลือเกิน”

ญาดาปลดกระโปรงออกแล้วนอนลง มือขวายังใช้นิ้วเขี่ยตามรอยผ่าที่เริ่มมีน้ำเอ่อซึมออกมา มือขวาเธอลูบไล้ตามหน้าอกขนาดใหญ่ จินตนาการของเธอเตลิดเปิดเปิง เธอล้วงมือเข้าไปในกางเกงใน บดขยี้เนินเนื้ออ่อนด้วยความเสียวที่พุ่งขึ้นๆๆๆ จนถึงปลายทางครั้งแรกในชีวิตสาว เธอครางอย่างเป็นสุข

“อาาา...ทำไมมันเสียว มันสุขอย่างนี้”

เธอเปลี่ยนชุดนอนละเข้านอนอย่างเป็นสุข ขณะกำลังเคลิ้มๆนั่นเอง เธอได้ยินเสียงกุกกักดังมาจากห้องทางขวาของเธอ

“เอ๊ะ...เสียงอะไร ห้องนั้นไม่มีใครอยู่ไม่ใช่หรอ”

เธอคิด...แต่ความอ่อนเพลียและง่วงงุนก็ทำให้เธอหลับไป

เช้าตรู่วันแรกในบ้านโคกสวาท...ญาดาตื่นขึ้นมาอย่างสดชื่น เธอเดินออกมาที่ระเบียงหน้าห้องตอนเช้า ซึ่งลักษณะมันเป็นระเบียงยาวติดกันหน้าห้องพักครูทั้งสามห้อง ญาดายืนรับลมเย็นในชุดนอนโปร่งบางสีชมพู ขณะกำลังยืนคิดอะไรเพลินๆนั่นเอง แอ๊ดดด....เสียงประตูห้องทางซ้ายเปิดออก ครูใหญ่สมควรเดินออกมาในชุดผ้าขาวม้าผืนเดียว แกบิดขี้เกียจแล้วเดินยิ้มเข้ามาหาครูสาว

“หลับสบายไหมครับครู”

ครูใหญ่ทักพลางมองญาดาอย่างโลมเลีย ชุดนอนบางโปร่งมองทะลุไปถึงผิวขาวเนียนภายใน ยอดอกสีชมพูแข็งเขม็งเพราะอากาศเย็นตอนเช้า ด้านล่างก็มองทะลุไปถึงใยไหมบางเบาของเธอ หญิงสาวเห็นสาวตาครูใหญ่เธอรีบแก้ตัว

“ค่ะ...สบายค่ะ พอดีหนูโดนสลับกระเป๋าน่ะค่ะ เลยมีแต่ชุดแบบนี้” ครูใหญ่ยิ้ม
“อ๋อ ไม่เป็นไรครับ ใส่แบบนี้ก็สวยดี”

ขณะที่หลบสายตาต่ำลงด้วยความอายนั่นเอง ครูสาวสังเกตเห็นอะไรบางอย่างในผ้าข้าวม้าค่อยๆขยับตัวและดันผ้าขาวม้าขึ้นมาเป็นกระโจม

“ไอ้นั่นของครูใหญ่ มันแข็งเพราะครูใหญ่มองเราหรอ...”

เธอคิดขณะในใจรู้สึกแปลกๆ เริ่มเข้าใจว่าทำไมสาวๆถึงชอบแต่งตัวโป๊ คงเพราะอยากยั่วให้ผู้ชายตื่นเต้นตื่นตัว

“หนูขอไปอาบน้ำก่อนนะคะ”

ญาดาเข้าไปอาบน้ำในห้องน้ำสังกะสี ตอนกลางวันยิ่งทำให้เห็นชัดว่ามีรูปรุพรุนเล็กใหญ่มากมาย ขณะถูสบู่เพลินๆนั่นเอง

“เป๊าะ” เธอได้ยินเสียงกิ่งไม้แห้งหักลั่นเบาๆ
“อาาา...”

ครูใหญ่ครางในลำคอ สายตาหื่นจ้องมองร่างขาวโพลนผ่านรูสังกะสี แกเห็นครูสาวกำลังถูสบู่ร่างขาวอวบสุด sexy แกมองไปที่หน้าอกขนาดใหญ่ขาวโพลน โดยมียอดจุกสีชมพูน่าลองลิ้ม หน้าท้องแบนราบ สะโพกผายก้นงอนงาม และตรงนั้น!!!! ใยไหมบางเบาและกลีบแคมปิดสนิทสีชมพูทำเอาแกแทบคลั่ง แกรูดปลาไหลยักษ์ที่ตื่นตัวเต็มที่

“โอววว ครูหญิง ทำไมน่าเอาอย่างนี้ โอววว อูยยย...อ่ะ อ่ะ อ่าาาา”

ร่างแกกระตุกเฮือกๆๆพลางฉีดคราบน้ำกามจำนวนมากไปที่ฝาสังกะสี จังหวะนั้นเองที่แกเสียหลักถอยไปเหยียบกิ่งไม้แห้ง แกมองเห็นครูสาวหยุดถูสบู่และเงี่ยหู

“ไม่ได้การ ออกไปก่อนดีกว่าเว้ย เดี๋ยวไก่ตื่น”

แกค่อยๆถอยหลังออกไปอย่างเงียบๆ พลางคิดแผนการอยู่ในใจ....

ครูสาว ตอนที่ 4

ญาดาอาบน้ำเสร็จ เธอเลือกใส่สายเดี่ยวขาวเอวลอยตัวบาง กับกระโปรงสั้นพลิ้วสีฟ้าอ่อนสั้นพอดีปิดก้น ในใจรู้สึกตื่นเต้นปนวาบหวิวแปลกๆที่ต้องแต่งตัว sexy ตอนกลางวันแบบนี้ แต่เธอคิดว่าที่นี่ห่างไกลไม่มีคนรู้จักกับครอบครัวเธอ และจากประสบการณ์ความตื่นเต้นเมื่อคืนและเมื่อเช้า ทำให้เธอเกิดความต้องการแปลกๆที่ตัวเองก็ชอบเหมือนกัน

“ครูครับ...อ้อ ลงมาพอดี”

ลุงมีซึ่งมาดักรอครูสาวอยู่หน้าบันไดทางลงเอ่ยทักเธอเมื่อออกมาจากห้อง ในระดับที่ต้องเงยหน้าคุยกับครู ทำให้สายตาแกมองช้อนกระโปรงของเธอเข้าไป...

“โอ...เจอของดีแต่เช้าเลยกู”

ครูสาวเองก็รู้ว่าลุงมีมองลอดใต้กระโปรง เธอกลับไปยืนเกาะขอบระเบียงให้ลุงมีเห็นชัดขึ้นไปอีก เพราะแกแทบจะยืนอยู่ใต้ตัวเธอ กระโปรงบานพลิ้วเปิดให้เห็นกางเกงในจีสตริงบางใส และขนอ่อนนุ่มข้างใน ลุงมียืนตัวแข็งทื่อ

“มาหาหนูแต่เช้า มีธุระอะไรหรอคะลุง”
“ลุงจะชวนครูไปกินข้าวที่บ้านลุงน่ะครับ”
“กินข้าวอย่างเดียวนะลุง”

ครูสาวยิ้มขณะเดินลงมาหาแก ผิวขาวผ่องของครูสาวยามกระทบแดดยิ่งดูขาวจัดจนแสบตา ครูสาวเดินเกาะแขนลุงมีไปด้วย

“ขอเกาะหน่อยนะคะ เมื่อวานหนูถอดรองเท้าผ้าใบ กับเสื้อผ้าที่ใส่มาที่ซักไว้ หายหมดเลยลุง เนี่ยหนูเอาส้นสูงในกระเป๋ามาใส่ สูงปริ๊ด เดินก็ยาก”

ลุงมีแอบยิ้มในใจ เพราะแกได้ทำตามแผนที่วางไว้กับตาเบิ้ม

“ตามสบายเลยครับครู มือครูนิ่มจัง ผมให้เกาะทั้งวันละครับ”
“ลุงนี่ สมัยหนุ่มๆคงเจ้าชู้น่าดูนะคะ”

คนสวยค้อนลุงมีอย่างน่ารัก ทั้งสองกินข้าวเช้ากันที่แคร่ หลังจากนั้นลุงมีก็มาส่งครูญาดาที่หน้าโรงเรียน ซึ่งครูใหญ่รออยู่แล้ว หลังจากเด็กๆร้องเพลงชาติเสร็จแกพาครูสาวตรงไปยังห้องสอนของเธอ ซึ่งควรเรียกว่าส่วนหนึ่งของเพิงมากกว่า ครูใหญ่มอบหมายให้ครูสาวสอน ป.4ถึง ป.6 ซึ่งเป็นเด็กขมุกขมอมไม่กี่คน

เย็นวันนั้นหลังเลิกเรียน

“ครูหญิงครับ วันนี้ผู้ใหญ่บ้านเชิญครูไปกินข้าวเย็นที่บ้านเขาน่ะครับ”
“เอ่อ...แล้วครูใหญ่ไปด้วยไหมคะ”
“ไปสิครับ ขากลับจะได้กลับด้วยกัน ที่นี่กลางค่ำกลางคืนไปไหนมาไหนคนเดียวไม่ดีครับ”
“แล้ว...เอ่อ...ชุด...”
“อ๋อ ไปแบบนี้สิครับ ผู้ใหญ่แกคงชอบมากๆ ไปกันเถอะครับ เดี๋ยวจะกลับดึก”

ว่าแล้วแกให้ครูสาวนั่งซ้อนท้ายมอร์เตอร์ไซค์คันเก่ที่เคยไปรับเธอเมื่อวาน นั่นเอง ด้วยเบาะรถที่สั้นทำให้ครูสาวนั่งด้วยความลำบาก เพราะต้องนั่งเอียงข้างเพราะเธอใส่กระโปรงสั้น ครูใหญ่เห็นดังนั้นจึงบอกให้เธอมานั่งตรงๆด้านหน้า ส่วนแกนั่งประกบหลังแล้วอ้อมแขนมาขับมอร์เตอร์ไซค์ ในสภาพนี้เหมือนเธอตกอยู่ในอ้อมกอดของครูใหญ่นั่นเอง

ครูใหญ่ได้กลิ่นผมหอมสะอาดของครูสาว ตัวแกด้านหน้าทาบเบียดไปกับแผ่นหลังนุ่มเนียน ส่วนท่อนลำของแกก็ถูกบดเบียดด้วยก้นงอนนิ่มที่รู้สึกได้ผ่านกระโปรงบางๆ ทำให้ลูกชายของแกเริ่มขยายตัวเมื่อได้กลิ่นแปลกปลอม ท่อนลำแข็งขยายขนาดยาวแล้วทาบไปตรงกับร่องก้นครูสาว เธอเองนั่งก้มหน้าแดงเพราะรู้สึกได้ถึงมันเช่นกัน

รถวิ่งโขยกเขยกมาครู่ใหญ่ก็จอด

“เดี๋ยวเราเดินผ่านท้องร่องนี่ไปก็ถึงครับ”
“เอ่อ...หนูใส่ส้นสูง คงเดินลำบากค่ะ”
“งั้นไม่เป็นไร”

แกรวบเอวครูสาวอุ้มขึ้นทันที เธอร้องเบาๆด้วยความตกใจก่อนจะโอบรอบคอครูใหญ่เพราะกลัวตก แกอุ้มครูคนสวยข้ามท้องร่องอย่างคล่องแคล่ว หน้าอกเธอบดเบียดกับหน้าอกครูใหญ่ ทำให้แกหายใจแรงถี่ ในใจไม่คิดอยากปล่อยเธอลงเดินเลย

“อ้าว...มากันแล้วเรอะ เชิญบนเรือนเลยครู”

เสียงห้าวดังมาจากทางขวา ญาดาเห็นชายสูงใหญ่ผมหงอกขาวทั้งหัว หน้าตาเหี้ยมเกรียมแถมมีแผลเป็นบนหน้าพาดยาวจากแก้มซ้ายไปจรดปลายคาง ร่างเปลือยท่อนบนดำแกร่ง กล้ามเป็นมัดๆดูแข็งแรงผิดกับครูใหญ่ที่อ้วนพลุ้ย รอยสักอักขระดำมืด แกนุ่งผ้าขาวม้าแบบหยักรั้งผืนเดียว มองเห็นท่อนขาเต็มไปด้วยรอยสักดำเช่นกัน ครูใหญ่ปล่อยเธอลง

“ผู้ใหญ่นี่ครูหญิงครับ” ท่าทางแกนอบน้อมกลัวเกรงผู้ใหญ่
“ครูหญิง...นี่ผู้ใหญ่สมิง”

เธอมองสบตาแววตาดุร้ายปนหื่นกระหายที่มองเธอไปทั่วตัวเหมือนชายทุกคนที่นี่ที่เห็นเธอครั้งแรก

“เชิญ...เชิญครูบนเรือน”

ทั้งสามนั่งล้อมวงบนชานบ้านไม้ไผ่ของผู้ใหญ่ กับข้าวจัดเตรียมไว้พร้อม แต่ครูสาวไม่เห็นคนอื่นอยู่ในบ้านอีกนอกจากผู้ใหญ่ เธอแอบสงสัยในใจ ทั้งสองเล่าให้ฟังถึงประวัติของหมู่บ้าน

“หมู่บ้านนี้มันมีผีสิง ครูคงไม่เชื่อ แต่อย่าออกไปไหนตอนอาทิตย์ตกดิน เชื่อผม” ผู้ใหญ่สมิงกล่าวเสียงเข้ม
“ครูสังเกตไหมตั้งแต่ครูมาที่นี่ ครูเคยเห็นผู้หญิงสักคนไหม”

นั่นสิ ตั้งแต่มาถึงหมู่บ้าน ทุกคนที่เธอเจอรวมทั้งเด็กๆในโรงเรียนล้วนมีแต่ผู้ชาย เป็นความแปลกใจหนึ่งที่เธอยังไม่ได้เอ่ยถามใคร

“เพราะอะไรคะผู้ใหญ่” ผู้ใหญ่หันไปยิ้มกับครูใหญ่
“ท่านผีแก่ชอบผู้หญิง”
“ท่านผีแก่?” เธอทวนคำด้วยความงุนงง
“เป็นความเชื่อของหมู่บ้านน่ะครู วิญญาณประจำหมู่บ้าน”
“ท่านชอบผู้หญิงเอาไปอยู่ด้วยหมด คนสุดท้ายที่อยู่ที่นี่ก่อนครูมาก็เมียครูใหญ่นี่ล่ะ”

ผู้ใหญ่หันไปทางครูใหญ่ซึ่งนั่งก้มหน้าเงียบสักพักแกก็เอ่ยกับครูสาวว่า

“มันเป็นเรื่องความเชื่อน่ะครับ ที่นี่น่าจะมีโรคระบาดบางอย่าง ยังไงคงให้ทางสาธารณสุขเข้ามาดูสักที”

เมื่อวงสนทนาเริ่มเครียดผู้ใหญ่ก็เริ่มรินน้ำใสๆจากไหใส่กะลาขัด ส่งมาให้ครูใหญ่

“อย่าไปคุยเรื่องเครียดเลยครู วันนี้เลี้ยงฉลองครูใหม่ มาดื่มเถอะ”

ครูใหญ่รับมาซดหมดเกลี้ยงกะลา ผู้ใหญ่รับกลับมารินส่งไปให้ครูสาว

“คนบ้านป่ากินเหล้าป่าน่ะครู กะลาใบเดียวกันอย่าถือสาเลยนะ”
“หนูไม่ถือหรอกค่ะ แต่หนูดื่มไม่เป็น”

เธอสบสายตาคมกริบแล้วรับกะลามาดื่มอย่างงงงวย ในใจเธอต้องการปฏิเสธ ทำไมร่างกายเธอกับตอบสนอง?สายน้ำขาวขุ่นผ่านลงท้องเธอไปแค่อึกเดียว หญิงสาวแทบหน้ามืด ความรู้สึกวิงเวียนมึนหัวอย่างรุนแรง เหล้าป่าโบราณจุดไฟติดทำให้หญิงสาวแทบหมดสติ กะลาร่วงหล่นจากมือเหล้าหกกระจายชุ่มเสื้อกระโปรง

“ครูใหญ่...ผู้ใหญ่คะ...หนู...”
“ดื่มไม่ไหวก็พอเถอะครับ ไม่ว่ากัน”

ครูใหญ่ฉวยโอกาสตอนหญิงสาวโงนเงนดึงเธอมาติดกายให้ซบหนุนลงบนตักหนาเหม็น เหงื่อของแก ส่วนผู้ใหญ่สมิงก็ดึงขาเธอจากท่าพับเพียบให้เหยียดยาวมาทางแก

“ครูนอนพักก่อนเถอะ เดี๋ยวดีขึ้นค่อยกลับ”

เธอหลับตาพริ้ม สติล่องลอยห่างไกล ได้ยินเสียงหนุ่มใหญ่ทั้งสองอย่างแผ่วเบาจับความไม่ได้

“ใช้ยาหรอครับผู้ใหญ่”
“หึๆๆ จิตอ่อนแบบนี้ แค่จ้องตาก็พอครู...นังหนูคนนี้ขาว สวยดีจริง แบบนี้ต้องเอาไว้สักพักก่อนส่งให้ท่านนะ”

มือสากหนาของผู้ใหญ่ลูบไปตามขาอ่อนขาวเนียน และล้วงลึกเข้าไปในกระโปรงบาง

“ครูใหญ่!”

แกเรียกจนครูใหญ่ซึ่งกำลังบีบเคล้นนมคู่สวยอย่างเพลิดเพลินอยู่นั้นตกใจ

“อะไรครับ?”
“นังคนนี้ยังบริสุทธิ์!”

ครูใหญ่ตกใจหน้าซีดเผือด

“แย่แล้ว แบบนี้ท่านไม่ชอบใจแน่ๆ ทำไงดีผู้ใหญ่”
“จะยากอะไร เราสองคนก็มาช่วยกันรุมนังคนนี้ให้ยับไปเลยไงครู ไม่งั้นเดือดร้อนกันหมดแน่”

พูดพลางผู้ใหญ่ถลกกระโปรงไปอยู่บนหน้าท้องเนียนเรียบ และดึงกางเกงในจีสตริงบางใสขาดติดมือ ตาแกลุกวาวเมื่อเห็นกลีบกุหลาบบริสุทธิ์สีชมพูปิดสนิท ผู้ใหญ่โฉบหน้ารกหนวดเคราลงไปเคล้ากลีบสวยนั้นทันที จมูกแกแทรกลงไปที่ร่องแยก ลิ้นสากยาวตวัดลากเลียขึ้นลง แล้วแทงลงไปในรอยแยกสีชมพูนั้น

ครูสาวสะดุ้งแต่ไม่สามารถลืมตาขึ้นได้ หนังตาและสติเธอหนักอึ้งเหลือเกิน แต่ความเสียวซ่านก็พลุ่งพล่านทวีเกินจะระงับ หยาดน้ำเสียวแฉะฉ่ำเนืองนอง ครูใหญ่เองก็ถอดสายเดี่ยวกับบราของเธอออก ปากหนาดำนั้นก้มลงดูดเลียเต้าอ่อนขาวซ้ายทีขวาที มือสากๆบีบขยุ้มราวกับจะบี้เต้าน้อยให้แหลกเละ หญิงสาวเปลือยเปล่าขาวโพลนอยู่ท่ามกลางชายหื่นสองคน หมดหนทางช่วยเหลือตัวเอง...

สองชายหื่นเปลือยท่อนล่างแทบจะพร้อมกัน ท่อนลำครูใหญ่นั้นหัวเล็กแต่ลำตัวอวบอ้วนยาวประมาณ 7 นิ้ว ส่วนของผู้ใหญ่สมิงนั้นครูใหญ่เองเห็นแล้วยังตกใจ เพราะหัวหยักบานโร่ใหญ่ และลำตัวยาวประมาณ 8 นิ้วซึ่งอวบหนากว่าของครูใหญ่เสียอีก ท่อนลำดำมืดมีริ้วรอยการใช้อย่างโชกโชน ฝังมุกฝังเงี่ยงตะปุ่มตะป่ำน่าสยดสยอง และมีรอยสักประหลาดรายรอบแท่งท่อน

“ผู้ใหญ่...ให้ผมเปิดก่อนเถอะ ถ้าโดนแท่งของผู้ใหญ่เข้าไป นังหนูนี่ไม่ฉีกก็พิการแน่”
“ฮ่าๆๆๆ ไม่ถึงอย่างนั้นหรอกผู้ใหญ่ แค่มันจะติดใจรสชาติท่อนเอ็นนี้ไปตลอดชีวิต”

ครูใหญ่ไม่กล้าเถียงอะไรอีกสอดท่อนแข็งเข้าไปในกลีบปากบาง อย่างช้าๆด้วยความคับแน่น ใบหน้าเหยเก ครูสาวเองรู้สึกว่ามีแท่งทวนขนาดใหญ่อัดเข้ามาจนเต็มปาก ผู้ใหญ่มองพลางเอ่ยแซว

“รอไม่ไหวหรอครู ผมทำไม่นานน่า แค่ 2 ชั่วโมง ฮ่าๆๆๆๆ”

แกพูดพลางลากท่อนยักษ์ขึ้นลงคลุกเคล้าน้ำหวานครูสาวก่อนจะจรดปลายบานให้ตรงร่อง แล้วกดลงไป...กลีบขาวอมชมพูแหวกออกช้าๆ...

ปัง..ปัง...ปังๆๆๆๆๆๆๆๆ!!!???






ครูสาว ตอนที่ 5

สองชายหื่นสะดุ้งขึ้นสุดตัว เสียงปืนในราวป่ามืดทำให้ทั้งสองรีบลุกขึ้นใส่เสื้อผ้า ผู้ใหญ่วิ่งเข้าบ้าน แกโยนปืนยาวให้ครูใหญ่ ก่อนจะคว้าอีกกระบอกสำหรับตัวเอง

“พวกไหนกันน่ะผู้ใหญ่?”
“น่าจะพวกโจรเขมรกับโจรฝั่งเราปะทะกัน ไปดูกันเถอะครู”
“เอ่อ...แล้ว...”

ครูใหญ่หันไปมองร่างเปลือยขาวสวยที่นอนหายใจเบาๆ

“ถ้าไอ้พวกนั้นมาเจอครูหญิง...มีหวัง...”
“ไปเถอะน่าครูใหญ่ อย่าห่วง เรื่องทางโน้นใหญ่กว่า”

พูดจบแกก็วิ่งนำออกไปทันที ครูใหญ่ตามไปอย่างเสียไม่ได้ เมื่อร่างชายทั้งสองหายลับ มีร่างดำๆสองร่างค่อยๆคืบคลานเข้าใกล้บ้านผู้ใหญ่อย่างแช่มช้า

“ไปไกลยังวะ”
“เข้าป่าไปแล้ว”

ลุงมีกับตาเบิ้มนั่นเอง สองตาแก่ชีกอแอบสะกดรอยตามครูทั้งสองมาตั้งแต่เย็น แล้วมาซุ่มแอบดูเหตุการณ์อยู่ใกล้ๆบ้าน ทั้งสองใจหายวาบด้วยความเสียดายเมื่อเห็นสองชายบนบ้านกำลังจะรุมโทรมครูสาว แต่กลับดีใจที่เสียงปืนในป่ามาช่วยเธอไว้ได้ทัน ไม่ใช่เพราะอะไรอื่น แต่เพราะแกทั้งสองต้องการจะรุมโทรมเธอก่อนนั่นเอง

ทั้งสองอุ้มร่างเปลือยของครูสาวขึ้นมอร์เตอร์ไซค์ของตาเบิ้มโดยให้หญิงสาว ผู้ไร้สตินั่งตรงกลาง ตาเบิ้มขับไปบ่นไปเพราะลุงมีซึ่งนั่งประกบหลังนั้นได้กำไรกว่า ปากรกหนวดของแกไซร้ไปทั่วแผ่นหลังขาวสะอาด ส่วนมือนึงก็บีบบี้นมอ่อนสลับกันไปมา อีกมือหนึ่งล้วงลงไปข้างล่าง นิ้วสากๆเขี่ยเม็ดมณีน้อยเล่นอย่างเพลิดเพลิน หญิงสาวเสียวแทบขาดใจแต่ลืมตาไม่ขึ้น เธอได้แต่ร้องห้ามผู้ล่วงล้ำ

“อย่า...อย่าค่ะ...อย่า...โอยยย”
“โอย...โอย...โอวววว...โอ๊ววววววววว”

ครูสาวเสร็จสมด้วยนิ้วสากดำของลุงมีที่บดบี้แต่ไม่ได้ล่วงล้ำ เธอสำลักความเสียวจนตัวอ่อนปวกเปียก ในขณะที่พากันมาถึงกระท่อมของตาเบิ้ม

“ไป..อุ้มขึ้นบ้านไปก่อน แหม เล่นซะน้ำเต็มเบาะกูเชียวนะมึง”

ตาเบิ้มบ่นกระปอดกระแปด ลุงมีอุ้มร่างขาวเดินเข้ากระท่อมไปขณะที่ตาเบิ้มเข็นรถไปเก็บ เมื่อตาเบิ้มเดินเข้าไปข้างใน ก็พบว่าลุงมีกำลังจรดท่อนลำขนาด 6 นิ้วครึ่งที่แข็งโป๊กผิดกับวัยของแก ลงบนรอยแยกสีชมพูที่เกือบจะโดนผู้ใหญ่ทะลวงเมื่อครู่ ตีนไวกว่าความคิด ตาเบิ้มถีบโครมลุงมีกระเด็นตกจากแคร่

“อะไรของมึงวะไอ้เบิ้ม”
“ไอ้ห่า...รถก็รถกู บ้านก็บ้านกู กูต้องเปิดก่อนซิโว๊ย”
“อ้าวๆ...ถ้ากูไม่บอกให้มึงไปพานังหนูนี่มา เราจะได้มาฟันไหมล่ะวะ”

ลุงมีโวยวายบ้าง ขณะที่ทั้งสองทุ่มเถียงกันไม่ลืมหูลืมตานั่นเอง ญาดาซึ่งสติกลับมามากแล้วพยายามลุกขึ้นแล้วเดินเบียดไปตามผนังเพื่อหลบแสง เทียนไม่ให้ตาแก่บ้ากามทั้งสองสังเกตเห็น เมื่อเธอออกมาถึงหน้าบ้านก็ต้องตกใจที่เห็นเด็กตัวดำวัย 12-13 ปีโผล่พรวดออกมาจากข้างบ้าน โชคดีที่เธอไม่ส่งเสียงร้องออก ไป ร่างนั้นกวักมือเรียกให้เข้าไปหา

“ครูครับ...ผมเอง...ทิว”

เธอจำได้ทันที ทิวเป็นหลานตาเบิ้มที่มาเรียน ป.6 ในชั้นเรียนของเธอ

“ตามผมมาครับ ผมจะพาครูกลับโรงเรียน”

ครูสาวซ้อนจักรยานของเด็กทิว

“ครูเดินไปคนเดียวไม่ได้หรอกครับ มืดแล้ว ครูจะหลง อีกอย่างมืดๆไปไหนคนเดียวไม่ได้”

ทิวอธิบายพลางปั่นจักรยานพลาง

“ครูเป็นอะไรหรือปล่าวครับ”

ทิวหันหน้ามาถามเมื่อเห็นครูสาวเงียบ เพราะเธอกัดฟันข่มความแสบปนเสียวอยู่นั่นเอง เพราะที่ซ้อนท้ายของจักรยานนั้นเป็นเหล็กที่เป็นขอบสี่เหลี่ยม ส่วนตรงกลางนั้นเป็นเหล็กซี่ๆโปร่งๆ ครูสาวนั่งเปลือยอยู่เนินน้อยของเธอจึงถูเข้ากับซี่เหล็กที่ดัดบิดเป็น เกลียว เมื่อรถตกร่อง ร่องของเธอก็กระแทกเข้ากับซี่เหล็ก เธอสะดุ้งกอดเอวทิวแน่น กัดฟันร้องไม่ออก ทิวหันมามองอย่างงงๆ ในใจคิดว่าครูคงยังไม่สร่างเมา

ทั้งสองมาถึงเรือนพักครูในเวลาไม่นาน เมื่อจอดรถเสร็จ ทิวกลับงงเมื่อครูสาวยังไม่ยอมลงจากรถ

“ทิว...ช่วยพยุงครูลงที”

ซี่เหล็กดัดอันกลางจมลงในร่องสีชมพูของเธอทำให้แสบและเสียวไปหมด ทิวงงแต่ก็ประคองปีกครูสาวและพยุงขึ้นไปบนเรือน

“กุญแจ...อยู่ใต้กระถางหน้าห้องจ้ะ”

เมื่อทั้งสองเข้าห้องมาได้ ทิวก็ไปหาน้ำกับพามาเช็ดตัวให้ครูสาวทันที เมื่อจุดเทียนในห้องญาดาพบว่าตัวเธอมีแผลถลอกและรอบช้ำหลายที่ เธอจำเหตุการณ์อะไรหลังจากที่ดื่มเหล้าป่ากะลานั้นไม่ได้เลย รู้สึกตัวอีกทีแกได้ยินเสียงลุงทั้งสองเถียงกันซึ่งเธอก็จำไม่ได้อีกว่า เรื่องอะไร จำได้แต่ว่าทิวเป็นคนพบเธอและพาเธอกลับมาที่นี่

“ครูครับ...เช็ดตัวหน่อยนะครับ”
“ครูทำเองได้จ้ะ ขอบใจมาก...โอ๊ย”

ญาดารับกระป๋องน้ำและผ้าจากทิวมาแล้วเจ็บแปล๊บที่ข้อมือ

“ให้ผมเช็ดให้ก็ได้ครับ ครูนอนลงเถอะครับ”

ญาดาจึงนอนคว่ำลงด้วยความอายที่ลูกศิษย์เห็นเธอเปลือย ซึ่งก่อนหน้านี้เธอคิดแต่จะกลับมาถึงที่นี่ให้ได้เท่านั้น ไม่ได้คิดถึงอย่างอื่น ทิวก้มหน้าก้มตาเช็ดตัวให้ครูสาวอย่างตั้งใจ ในใจเด็กชายไม่ได้คิดอะไรอกุศลกับครูสาวเลย นอกจากความเป็นห่วงเพราะเธอได้รอยฟกช้ำดำเขียว ผ้าสากๆชุบน้ำเย็นๆลูบตามเนื้อตัวทำให้ญาดาสบายขึ้น เมื่อเช็ดด้านหลังเสร็จแล้วเธอก็ไว้ใจให้ทิวเช็ดด้านหน้าของเธอด้วย

“ทิว จักรยานของเธอน่ะ ทำครูเจ็บรู้ไหม”
“หรอครับ” ทิวทำหน้างง
“ก็ไอ้ที่ซ้อนมันไม่มีเบาะ ครูนั่งมาก้นระบมเลย”

เธอชวนทิวคุยเพิ่มความสนิทสนม

“ตรงนั้นไม่ต้องจ้ะ ครูทำเอง”

ญาดารับผ้ามาเช็ดเนินน้อยของเธอเองด้วยความอายที่จะต้องให้เด็กชายมาเช็ด เธอให้ทิวหยิบชุดนอนให้เธอ

“ทิว...ขอบใจเธอมากนะที่ช่วยครู ค่ำป่านนี้แล้ว ครูว่าเธอนอนที่นี่ไหม”

ครูสาวเอ่ยด้วยความรู้สึกขอบคุณและเป็นห่วง

“เธอบอกว่ากลางคืนห้ามไปไหนคนเดียวไม่ใช่หรอ”
“ครับ ผมก็อยากนอนที่นี่ครับแต่...“

สายตาทิวเหลือบมองไปทางห้องด้านขวาของห้องเธอ ห้องด้านขวาอีกแล้ว สายตาเด็กชายเหมือนสายตาของลุงมีที่เธอเห็นในวันแรก หวาดหวั่น...

“มีอะไรหรอจ้ะ...ห้องนั้นน่ะ ทิว”

เด็กชายสะดุ้งหันกลับมามองหญิงสาว

“ไม่...ไม่มีอะไรครับครู ครูจะให้ผมนอนไหนครับ”

ญาดามองไปรอบๆห้องเล็ก นอนจากฟูกเธอแล้วไม่มีตรงไหนเลยที่น่าจะนอนสบาย

“นอนติดครูนี่ล่ะ แบ่งหมอนกับผ้าห่มคนละครึ่ง”

ญาดาเชื่อใจเด็กชายเพราะเห็นเขาเช็ดตัวเธออย่างไม่มีอะไรเคลือบแฝง

“เอ่อ...แต่”
“จ้ะ?”
“ผมตัวเหม็นนะครับครู”
“มาเถอะน่า”

ครูสาวดึงเด็กชายเข้ามานอนติดกันใต้ผ้าห่ม ทิวนอนใจเต้นตึกตักอยู่ใต้ผ้าห่ม ครูคนสวยของเขาหลับไปแล้ว ทั้งสองอยู่ในท่านอนตะแคงไปทางเดียวกัน ญาดานอนกอดทิวหลับหายใจสม่ำเสมอ หน้าอกนุ่มนิ่มของเธอเบียดกับหลังศีรษะของเด็กชาย เขาไม่เคยนอนกับแม่ หรือผู้หญิงคนใดมาก่อน เด็กชายมีความสุขกับกลิ่นกายหอมและผิวนุ่มละมุนของเธอ เขาพลิกตัวกลับไปประกบกับเธอ หน้าของเด็กชายซุกลงกลางอกนุ่มหอมอย่างหาไออุ่น ญาดาสะดุ้งตกใจนิดหนึ่ง เมื่อเห็นเด็กชายหลับซุกอกเธอจึงยิ้มน้อยๆและนอนต่อไป...

ครูสาว ตอนที่ 6

เช้ามืด...ญาดาตื่นขึ้นเพราะมีอะไรแข็งๆหยุ่นๆตำอยู่บริเวณกลางลำตัว เธอลืมตาขึ้นพบว่ากำลังนอนกอดเด็กทิวอยู่ในสภาพที่หันหน้าประกบกัน ชุดนอนของเธอเปิดขึ้นมาเกือบถึงหน้าอก และแท่งทวนน้อยของเจ้าทิวซึ่งแข็งตัวในยามเช้านั้นปลายหัวมนของมันจิ้มเข้า ไปที่ซอกหลืบของเนินนุ่ม

ญาดารู้สึกสยิวขึ้นมาทันทีเมื่อรู้ว่าตนเองกับทิวกำลังอยู่ในสภาพอย่างไร แท่งน้อยแข็งเพราะปวดฉี่ หรือเพราะเป็นธรรมชาติของเพศชายก็ไม่ทราบได้ ขนาดของมันจัดได้ว่าเกือบๆจะเท่าผู้ใหญ่เลยทีเดียว เพราะเด็กทิวนั้นก็ใกล้จะเข้าสู่ช่วงวัยรุ่นแล้ว ญาดารู้สึกเสียจนขนลุกซู่ กัดฟันข่มเสียงครางเมื่อเจ้าทิวน้อยขยับตัว เธอรู้สึกเหมือนงูน้อยนั้นพยายามแทรกลงไปชิมน้ำหวานในบ่อ หัวของเจ้าทิวนั้นก็ซุกอยู่กลางอก ลมหายใจของเด็กน้อยทำให้เธอทวีความเสียวมากขึ้น

“แม่...แม่จ๋า”

เหมือนเจ้าทิวจะละเมอ สองมือของมันกอดรัดรอบเอวกิ่วของหญิงสาว ปากดำๆของมันบังเอิญไปตรงกับหัวนมสีชมพูของเธอเข้า เด็กน้อยดูดจ๊วบๆๆ ด้วยสัญชาติญาณหรือการละเมอก็ไม่ทราบได้

เมื่อเด็กชายเริ่มดูดนม ญาดาสุดที่จะควบคุมตัวเองได้ เธอจับหัวเด็กน้อยกดลงไปกับเต้าอ่อนของเธอด้วยความเสียว

“อา...อา...ทิว...ทิวอย่า...”

เสียงร้องของเธอดังไม่เกินกระซิบ เด็กน้อยดูดจ๊วบๆๆเพิ่มความแรงจนหัวนมแทบจะหลุดติดปากออกมา มือข้างหนึ่งของเด็กน้อยเอื้อมมาบีบบี้เต้าขาวข้างที่เหลือ ญาดาผวาแอ่นตัวดุ้นเอ็นซึ่งจ่อตรงทิ่มแทงเนินนูนอยู่ก็เปลี่ยนมุมลู่ลงไปตาม ความโค้งของเนินเนื่องจากเธอบิดตัว ญาดาเด้งสะโพกเข้าไปประกบกับเด็กชาย ทำให้แท่งน้อยลอดสอดอยู่ระหว่างขาหนีบของเธอ

“อา...อา...อาาา...”

ญาดาโยกเอวให้เนินเสียวเสียดสีกับลำแท่งของทิว เธอเสียวจนลืมตัว โยกเอวเสียจนเจ้าทิวตื่น

“ครู...ครูครับ ครูทำอะไรครับ”
“ครู...ครู...อาาา...ครูกำลังใช้จู๋...ของเธอนวด...นวดจิ๋มครูน่ะจ้ะ”

เด็กชายตาโตด้วยความงงงวย เมื่อครูของเขาโยกเอวก็ทำหน้าย่นด้วยความรู้สึกแปลกๆ

“มัน...มันเหมือนจะปวดฉี่ครับครู”
“ทนหน่อยนะจ้ะ...นวดให้ครูหาย...”

ญาดาโยกบดเอวอย่างต่อเนื่อง เสียงครางของครูสาวกับลูกศิษย์น้อยเริ่มประสานเสียง

“ทิวจ๋า...ดูดนมครูอีกสิจ้ะ”

หญิงสาวเอ่ยชวน เด็กทิวยิ้ม งับปากดูดสลับซ้ายขวาด้วยความสนุก มือสองข้างบีบบี้เต้าอ่อนขาวอย่างมันมือ

“โอ...โอววว...โอววววว...”

ญาดาเสียวจนครางระงมลั่นห้อง เธอเชยคางเด็กชายขึ้นแล้วประกบปากด้วยความสุดกระสัน ลิ้นอ่อนนุ่มชอนไชเข้าไปเกี่ยวดูดกับลิ้นของเด็กชาย ทิวตัวสั่นเทิ้มขนลุกเกรียว เขารู้สึกว่าท่อนเอ็นที่อยู่กลางหว่างขานุ่มฉ่ำแฉะของครูสาวทวีความแข็งขึ้น ไปอีก ทั้งสองบดเอวเข้าใส่กันอย่างถึงพริกถึงขิง ผั่บๆๆๆๆๆๆๆๆ เสียงดังลั่นห้อง

“อา...อา...ทิว...อีก...อีกนิด...โอววว....โอ๊ววว...โอ๊วววววววว”

หญิงสาวดิ้นพล่านเหมือนถูกไฟช๊อตเมื่อถึงจุดสุดยอด เธอบดบี้หัวของทิวกับหน้าอกนุ่มจนเด็กชายหายใจไม่ออก เด็กชายเองก็รู้สึกเสียวไม่แพ้กัน จนฉีดน้ำกามแรกในชีวิตพุ่งกระจายออกมาเลอะเต็มเนินครูสาว ทั้งสองถึงจุดสุดยอดได้โดยไม่ต้องสอดใส่ นี่เป็นอีกบทหนึ่งที่ครูสาวได้เรียนรู้ ทั้งสองหายใจหอบด้วยความเหนื่อย ครูสาวยิ้มแล้วจูบหน้าผากเด็กชาย

“ครูหายเจ็บจิ๋มหรือยังครับ” เด็กชายถามประสาซื่อ
“ครูโกรธไหมครับ...ที่ผมฉี่ใส่จิ๋มครู”

เด็กชายยังแยกน้ำกามกับฉี่ไม่ออก

“ผมสนุกจังนะครับเหมือนเล่นกันมากกว่านวดกันซะอีก ผมชอบดูดนมจับนมครูด้วยครับนิ่มหอมดีจัง”

พูดจบทิวก็ยิ้มกว้าง หญิงสาวยิ้มตามด้วยความเอ็นดู

“ครูหายเจ็บแล้วจ้ะคนเก่ง”

แล้วเธอก็เชยคางเด็กชายจุ๊บเบาๆที่ปากเขาอีกครั้งหนึ่ง

“วันไหนครูเจ็บ มานวดครูอีกนะ”
“ครับ...ครูเรียกเมื่อไหร่ ผมจะมาทันทีครับ” พูดจบเด็กชายก็เอ่ยเบาๆ
“ปากครูหอมจังครับ”

ครูสาวยิ้มแล้วก้มลงจูบลูกศิษย์ตัวน้อยอีกครั้งอย่างดูดดื่ม...เนิ่นนาน...